ช่วงห่างของราคาขั้นต่ำ (Tick Size)

ช่วงห่างของราคาขั้นต่ำ (Tick Size) คืออะไร?

ช่วงห่างของราคาขั้นต่ำ (Tick size) คือการเคลื่อนไหวของราคาที่ต่ำที่สุดที่หุ้นหรือหลักทรัพย์สามารถทำได้ขณะซื้อขาย อาจแตกต่างกันไปตามตลาดการเงิน ประเภทของหลักทรัพย์ ปริมาณ และมูลค่าการซื้อขาย

การเพิ่มขึ้นของ Tick size จะแสดงเป็นดอลลาร์สหรัฐหรือเซ็นต์ในตลาดสหรัฐฯ หุ้นมักจะซื้อขายโดยเพิ่มขึ้นทีละหนึ่งเซ็นต์ ในขณะที่สกุลเงินจะมี tick size เป็น pip และ basis points (bps)

วัดขนาดช่วงห่างของราคาขั้นต่ำได้อย่างไร?

ตลาดหลายแห่งในปัจจุบันใช้ระบบจุดทศนิยม

Tick size อาจเป็น 0.1, 0.01 หรือหน่วยทศนิยมอื่นๆ ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตลาด ตัวอย่างเช่น หากหลักทรัพย์ซื้อขายที่ 6.035 ในตลาดที่มี tick size ขนาด 0.001 การเปลี่ยนแปลงของราคาอาจแสดงระดับ 6.036 เมื่อขยับขึ้นหรือ 6.034 เมื่อขยับลง การเผยแพร่ของตลาดระบุขนาดของช่วงห่างของราคาขั้นต่ำสำหรับการอ้างอิง

ช่วงห่างของราคาขั้นต่ำใน Forex

Pips มีค่าเท่ากับ 1/100, 1 basis point หรือ 0.01% ตลาด Forex ใช้แบบแผนการเสนอราคาที่เป็นจุดทศนิยมสี่ตำแหน่งโดยใช้ pip สำหรับ tick size

ตัวอย่างเช่น EUR/USD อาจมีราคาเสนอซื้อที่ 1.1257 โบรกเกอร์ Forex บางรายเสนอราคาเป็น pip ถึงทศนิยมห้าตำแหน่ง ตัวอย่างเช่น การเสนอราคาข้างต้นสามารถกำหนดเพิ่มเติมเป็น 1.12573 ซึ่งมีเลขทศนิยมถึง 10 ตำแหน่งต่อ pip ค่าของจุดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงิน

หากต้องการดูแผนภูมิ Tick ใน MetaTrader 4 หรือ MetaTrader 5 เปิดหน้าต่าง 'Market Watch' และเลือกแท็บ 'Ticks' ที่ด้านล่าง

ทำไมนักลงทุนจึงควรให้ความสนใจ?

มันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับนักลงทุนในการติดตามตลาดต่างประเทศ เพื่อที่จะได้ทราบปริมาณผลกำไรและความถี่ที่ตลาดอัปเดตรายงาน ข้อมูลนี้อาจมีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนและซื้อขาย นอกจากนี้ เทรดเดอร์อัลกอฯ ใช้ข้อมูลของช่วงห่างของราคาขั้นต่ำเพื่อทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพของ ระบบการซื้อขายอัตโนมัติ และ Expert Advisors

ตลาดใช้ Tick size ในหลากหลายแบบ นอกจากจะช่วยให้นักลงทุนติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นและหลักทรัพย์ได้แล้ว ยังสามารถใช้เพื่อบังคับใช้กฎการซื้อขายบางอย่างได้อีกด้วย ในตลาดหลายแห่ง ธุรกรรมบางประเภทอาจได้รับอนุญาตระหว่างการเคลื่อนไหวของตลาดที่กำหนดไว้เท่านั้น หรืออาจถูกห้ามใช้ในช่วงอื่นๆ ตัวอย่างเช่น ตลาดหลายแห่งอนุญาตให้ขายชอร์ตระหว่างที่มีการพุ่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งป้องกันเทรดเดอร์ที่ไม่ซื่อสัตย์จากการใช้ประโยชน์จากตลาดและยังสามารถป้องกันความตื่นตระหนกได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หลังจากการร่วงลงหลายครั้งที่ทำให้นักลงทุนอารมณ์เสีย